โรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน ให้บริการรักษาพยาบาลและดูแลผู้ป่วยโรคทางสมองและระบบประสาท ด้วยทีมแพทย์ที่มากประสบการณ์ และเชี่ยวชาญโรคทางสมองและระบบประสาทโดยเฉพาะ อีกทั้งยังครบครันด้วยอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย เพื่อให้การวินิจฉัยโรคทางสมองและระบบประสาทมีความถูกต้องแม่นยำ มีการทำงาน ประสานกันเป็นทีม เพื่อวางแผนการรักษาให้ผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว และติดตามความคืบหน้า ของผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง และประชุมทบทวนการให้การรักษาผู้ป่วยเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้การรักษาอยู่เสมอ โรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน ให้บริการตรวจวินิจฉัยด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย ดังนี้
- การตรวจสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแรงสูง (Magnetic resonance imaging of the brain : MRI Brain) ในการวินิจฉัยโรคทางสมองนั้น MRI เข้ามามีบทบาทอย่างมาก เนื่องจากประสิทธิภาพของภาพตัดระนาบต่าง ๆ ของสมองชัดเจนมาก ทำให้แพทย์สามารถวินิจฉัยหาสาเหตุได้รวดเร็วและแม่นยำขึ้น MRI ถือเป็นทางเลือกอันดับแรกในการตรวจหาโรคทางสมองและระบบประสาท โดยเฉพาะเนื้องอกใน สมอง ความผิดปกติแต่กำเนิดของสมอง การหาสาเหตุของโรคลมชัก โรคสมองเสื่อม ฯลฯ ซึ่งวิธีนี้เเป็นการตรวจที่ปลอดภัย อีกทั้งยังใช้เวลาน้อยที่สุด
- การตรวจสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแรงสูง (Magnetic resonance angiogram : MRA) การตรวจ MRA เป็นการคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยงต่อภาวะเส้นเลือดสมองโป่งพองได้อย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยในการวินิจฉัยความผิดปกติอื่น ๆ ในเส้นเลือดสมอง เช่น เส้นเลือดสมองตีบ เนื้อสมองตาย เส้นเลือดสมองแตก เป็นต้น
- การตรวจหลอดเลือดคอและสมองโดยใช้คลื่นความถี่สูง (Carotid Duplex Ultrasonogram) วิธีนี้เป็นการตรวจหลอดเลือดใหญ่ที่คอ (Common carotid artery) ที่ทำหน้าที่ส่งเลือดไปเลี้ยงสมอง ส่วนหน้า และตรวจหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองส่วนหลัง (Vertebral Artery) ด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง เพื่อตรวจดูการไหลเวียนเลือดที่ขึ้นไปเลี้ยงสมอง รวมทั้งตรวจหลอดเลือดว่ามีคราบหินปูนหรือคราบไขมันเกาะอยู่ภายในหลอดเลือดหรือไม่ การตรวจนี้สามารถช่วยในการประเมินผู้ป่วยที่เป็นโรคอัมพาต และช่วยในการวินิจฉัยติดตามสภาพของหลอดเลือดในสมองของผู้ป่วย ในขณะที่ผู้ป่วยอยู่ในห้องผู้ป่วยหนักได้
- การผ่าตัดหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทแบบแผลเล็ก MIS Spine (Minimally Invasive Spine Surgery) เป็นการผ่าตัดผ่านกล้องจุลทรรศน์ (Surgical Microscope) ด้วยกล้องไมโครสโคป ที่มีกำลังขยายมากกว่าปกติ 20 – 100 เท่า ทำให้ศัลยแพทย์มองเห็นรายละเอียด เส้นประสาท และพยาธิสภาพที่ต้องการแก้ไขได้ชัดเจน ช่วยให้แพทย์สามารถผ่าตัดในจุดที่ต้องการได้มีประสิทธิภาพ แม่นยำ แผลมีขนาดเล็กประมาณ 2 – 3 เซนติเมตร เสียเลือดน้อย ความเจ็บปวดจากการผ่าตัดน้อยลง ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และคนไข้ฟื้นตัวได้เร็ว เวลาที่ต้องนอนโรงพยาบาลน้อยลง