ให้คุณยิ้มได้อย่างมั่นใจด้วย "รากฟันเทียม"
การสูญเสียฟันไม่ว่าจะด้วยจากสาเหตุใดก็ตาม มักจะนำความวิตกกังวลมาสู่ผู้ป่วยเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากความสวยงามและความมั่นใจในรอยยิ้มจะหายไปถ้ามีการสูญเสียฟันหน้าไป ในกรณีที่มีการสูญเสียฟันหลังจะตามมาด้วยการล้มเอียงของฟันซี่ข้างเคียง มีเศษอาหารติดซอกฟัน รวมทั้งประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวอาหารก็จะลดลง    เมื่อคนเราไม่สามารถรับประทานอาหารได้อย่างดี ก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวมของร่างกาย    ผู้ป่วยที่มีการสูญเสียฟันไปจึงควรที่จะได้รับการใส่ฟันทดแทนเพื่อบูรณะความสามารถในการบดเคี้ยวอาหาร และความมั่นใจในการพูดคุยกลับคืนมา ทพ. พงศกร ประเสริฐธรรม ทันตแพทย์ศัลยกรรมช่องปากและรากฟันเทียม โรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน กล่าวว่า การรักษาด้วยรากฟันเทียมจัดว่าเป็นวิธีที่ให้ความสวยงามและใช้งานได้ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากที่สุด สามารถบดเคี้ยวอาหารได้ดี ไม่มีปัญหาด้านการออกเสียง ตัวฟันเทียมจะไม่ขยับระหว่างพูดคุยหรือรับประทานอาหาร    โดยที่ตัวรากฟันเทียมนั้นจะทำมาจากโลหะไทเทเนียม (Titanium) ซึ่งเป็นวัสดุที่ร่ายกายยอมรับได้โดยไม่มีการต่อต้าน ถูกนำมาใช้ในการทำรากเทียมมานานกว่า 30 ปี และให้ความสำเร็จในการรักษาสูงมากกว่าร้อยละ 90    การนำรากฟันเทียมมาใช้ในการทดแทนฟันนั้นทำได้หลายกรณี ตั้งแต่การทดแทนฟันซี่เดียว จนถึงการใช้รากฟันเทียมในการรองรับฟันเทียมทั้งปากเพื่อช่วยยึดให้ฟันเทียมถอดได้แน่นมากขึ้น ไม่ขยับขณะใช้งาน เมื่อเปรียบเทียบกับสะพานฟัน ซึ่งเป็นวิธีการใส่ฟันเทียมแบบติดแน่นที่นิยมทำกันมานาน ข้อดีที่เด่นชัดของรากฟันเทียมคือ ไม่ต้องอาศัยฟันข้างเคียงเป็นหลักยึด ในขณะที่การทำสะพานฟันจะต้องมีการกรอเนื้อฟันข้างเคียงออกเพื่อทำเป็นครอบฟันที่เชื่อมต่อกับส่วนที่เป็นฟันแขวนเพื่อทดแทนฟันที่สูญเสียไป   ดังนั้นเมื่อฟันซี่ใดซี่หนึ่งที่ใช้เป็นหลักยึดของตัวสะพานฟันมีปัญหา ก็จะต้องมีการรื้อสะพานฟันทั้งหมดออกไปด้วย โดยทั่วไปการรักษารากฟันเทียมจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ขั้นตอนแรกเป็นการผ่าตัดเพื่อปลูกรากฟันเทียมลงในกระดูกขากรรไกร หลังจากนั้นต้องทิ้งช่วงเวลาให้มีการสร้างกระดูกเข้ามายึดติดกับผิวรากฟันเทียม ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2-4 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพกระดูกตั้งต้นของผู้ป่วย  เมื่อรากฟันเทียมยึดติดกับกระดูกแล้ว ขั้นตอนที่สองคือการต่อเดือยฟันเข้ากับรากฟันเทียม เพื่อใช้เป็นฐานรองรับครอบฟัน หรือรองรับฟันเทียมถอดได้ต่อไป ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางทันตกกรม ในปัจจุบันนี้มีการนำการเอกซเรย์สามมิติด้วยคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยให้การวางแผนการรักษาของทันตแพทย์มีประสิทธิภาพมากขึ้น  เพิ่มความแม่นยำในการกำหนดตำแหน่งและช่วยลดระยะเวลาของการผ่าตัดลง   รวมทั้งสามารถออกแบบและสร้างชิ้นงานส่วนของครอบฟันให้มีรูปร่าง-ขนาด-สี ให้เหมือนกับฟันธรรมชาติของผู้ป่วยแต่ละคนได้เป็นอย่างมาก  ดังนั้นการรักษาด้วยรากฟันเทียมจึงเป็นทางเลือกที่ดีในการบูรณฟื้นฟูสภาพจากที่ไม่มีฟัน ให้กลับมาบดเคี้ยวได้อย่างธรรมชาติ คุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายและเวลาที่เสียไป เพราะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทพ. พงศกร กล่าวทิ้งท้ายว่า “อย่างไรก็ตาม ตัวรากฟันเทียมเองก็ต้องการการดูแลไม่ต่างจากฟันธรรมชาติ คือ ต้องหมั่นแปรงฟันทำความสะอาดหลังรับประทานอาหารและก่อนเข้านอน ควรใช้แปรงขนนุ่ม ร่วมกับการใช้ไหมขัดฟัน และควรระมัดระวังการรับประทานอาหารที่มีความแข็งหรือเหนียวเกินไป ที่สำคัญควรพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟันอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยทุก 6 เดือน เพื่อการดูแลให้สุขภาพฟันของท่าน รวมถึงรากฟันเทียมให้มีสภาพปกติพร้อมใช้งานได้ในระยะยาว” โรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน มีความพร้อมด้วยทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่ดูแลผู้ป่วยร่วมกัน อีกทั้งยังพร้อมด้วยเทคโนโลยี อุปกรณ์ และระบบปลอดเชื้อที่ได้มาตรฐานสูง ผ่านการรับรอง เพื่อให้มั่นใจถึงคุณภาพการใช้งาน หลีกเลี่ยงปัญหาในช่องปากที่จะตามมาในอนาคต โดยมุ่งเน้นความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นสำคัญ   ********************************************************************* คลินิกทันตกรรม โรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน ติดต่อสอบถามที่ โทร. 032-616-872 | Email: [email protected]