นพ.ศิริชัย แสงงามมงคล อายุรแพทย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์โรคระบบการหายใจและภาวะวิกฤตโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน กล่าวว่า ความรุนแรงของโรคไข้หวัดใหญ่ขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานของแต่ละคน ซึ่งคนที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ตลอดจนคนที่เป็นโรคเรื้อรัง อาทิ โรคไต เบาหวาน และมะเร็ง กลุ่มนี้หากพบการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ influenza จะมีความเสี่ยงสูงเพิ่มขึ้นที่จะเกิดพบอาการแทรกซ้อน เช่น ปอดอักเสบ และอาการติดเชื้อในหูชั้นกลางตามมาได้
ปอดอักเสบ หรือ “ปอดบวม” เป็นอาการที่ต่อเนื่องมาจากโรคไข้หวัดใหญ่ ที่เกิดจากการเชื้อแบคทีเรียที่ร่างกายได้รับเข้าผ่านทางระบบทางเดินหายใจ โดยระดับความรุนแรงของโรคจะแตกต่างกันออกไป ในผู้สูงอายุที่มีภูมิต้านทานต่ำ โอกาสเสี่ยงที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนจากปอดอักเสบสูงมาก เช่น การติดเชื้อในกระแสเลือด หรือระบบทางเดินหายใจล้มเหลว ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้สูงอายุที่เป็นโรคนี้เสียชีวิตสูงถึง 50% เป็นเหตุผลให้โรคปอดอักเสบในผู้สูงอายุน่ากลัวกว่าปอดอักเสบในคนทั่วไป

“ปอดอักเสบมีระยะเวลาดำเนินโรคในช่วง 3 – 4 วัน หลังจากเริ่มป่วยเป็นไข้หวัด หากมีอาการไอ มีเสมหะเปลี่ยนสี หายใจเหนื่อยหอบ เจ็บแน่นหน้าอก อ่อนเพลีย และมีไข้สูงตลอดเวลา อาการเหล่านี้เป็นอาการที่แสดงให้เห็นว่าไม่ได้เป็นแค่ไข้หวัดธรรมดา แต่อาจมีอาการปอดอักเสบร่วมด้วย
อาการของโรคปอดอักเสบในผู้สูงอายุที่พบได้บ่อย คือมีอาการซึมลง หรือสับสน และไม่จำเป็นต้องมีไข้หรืออาการไอมาก่อน”
นพ.ศิริชัย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หากพบผู้ป่วยที่สงสัยว่ามีการติดเชื้อที่ปอด แพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยด้วยการตรวจเอกซเรย์ปอดและตรวจเลือด รวมถึงนำเสมหะของคนไข้ไปตรวจเพาะเชื้อ เพื่อหาสาเหตุว่าเป็นโรคปอดอักเสบที่เกิดจากเชื้อชนิดไหน ซึ่งผลตรวจที่ได้จะนำไปสู่แนวทางการรักษาที่ถูกต้อง ทั้งนี้ไข้หวัดใหญ่สามารถหายเองได้หาก พักผ่อนให้เพียงพอ แต่ถ้าเริ่มมีอาการไข้สูง หายใจเหนื่อยหอบ แน่นหน้าอก ทานอาหารไม่ได้ ควรรีบมาพบแพทย์เพื่อรักษาโดยเร่งด่วน เพราะการซื้อยาลดไข้มาทานเองสำหรับคนปกตินั้น ร่างกายอาจหายจากไข้หวัดเองได้ แต่ในกรณีของผู้สูงอายุ คนที่มีโรคประจำตัว การปล่อยให้เชื้อไข้หวัดใหญ่อยู่ในร่างกายเป็นเวลานาน สามารถเพิ่มความเสี่ยงเกิดโรคแทรกซ้อน อีกทั้งเพิ่มระดับความรุนแรงของโรคให้มากขึ้น

สำหรับโรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย รักษาได้โดยให้ยาฆ่าเชื้อในรูปแบบยารับประทานหรือยาฉีด โดยแพทย์จะพิจารณาวิธีการรักษาจากระดับความรุนแรงของโรค โดยทั่วไปหลังจากได้รับยาฆ่าเชื้อ อาการจะดีขึ้นภายใน 2 – 3 วัน ในขณะที่โรคปอดอักเสบที่เกิดจากเชื้อไวรัส การรักษาจะพิจารณาตามอาการ หากอาการไม่หนักมาก แนะนำให้พักผ่อนให้เพียงพอ และดื่มน้ำมาก ๆ อย่างไรก็ตาม ในกรณีของผู้สูงอายุที่ป่วยที่มีโรคเรื้อรังควรได้รับการรักษาในโรงพยาบาล เพื่อดูแลอาการอย่างใกล้ชิด ป้องกันการเกิดโรคแทรกซ้อนตามมา
*********************************************************************************
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ :
แผนกโรคปอดและระบบทางเดินหายใจ ชั้น 1 โรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน โทร. 032-616-880