ต่อมทอนซิลอักเสบ
ต่อมทอนซิล (Tonsils) เป็นกลุ่มของเนื้อเยื่อต่อมน้ำเหลืองอยู่ในลำคอทั้ง 2 ข้าง ภายในต่อมทอนซิลมีเม็ดเลือดขาวหลายชนิด ซึ่งมีหน้าที่หลักในการจับและทำลายเชื้อโรคที่จะเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจและระบบทางเดินอาหาร
พญ. นทิตา ชมชื่น แพทย์เฉพาะทางด้าน หู คอ จมูก โรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน กล่าวว่าทอนซิลอักเสบ เป็นภาวะการอักเสบของต่อมทอนซิล มักเกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรีย ทำให้ผู้ป่วยมีอาการไข้ เจ็บคอ กลืนเจ็บ อาจคลำได้ต่อมน้ำเหลืองที่คอบวมโต และอาจพบภาวะแทรกซ้อนของทอนซิลอักเสบ เช่น ฝีหนองรอบต่อมทอนซิลได้ โดยปกติแพทย์จะรักษาตามอาการและความรุนแรง เช่น ให้ยาปฏิชีวนะ ยาบรรเทาอาการเจ็บคอ ยาลดไข้ ยาแก้อักเสบ หรือการผ่าตัดเพื่อระบายหนอง เป็นต้น
การผ่าตัดต่อมทอนซิล (Tonsillectomy)
โดยทั่วไปแพทย์จะพิจารณาผ่าตัดต่อมทอนซิลในกรณีที่
- การรักษาด้วยยาไม่ได้ผล หรือเกิดการอักเสบปีละหลายๆ ครั้ง รบกวนต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้ป่วย (6 ครั้งต่อปี, หรือ 5 ครั้งต่อปี 2 ปีติดต่อกัน, หรือ 3 ครั้งต่อปี 3 ปีติดต่อกัน)
- การเกิดฝีรอบๆ ต่อมทอนซิล หลังรักษาอาการฝีรอบๆ ทอนซิลหายแล้ว ประมาณ 1 – 2 เดือน ค่อยมาผ่าตัดทอนซิลออก
- เมื่อต่อมทอนซิลโตมาก ทำให้เกิดการนอนกรน และ/หรือมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
- ผู้ป่วยที่แพทย์สงสัยว่าอาจเป็นมะเร็งของต่อมทอนซิล หรือมีมะเร็งที่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอ – แพทย์จะทำการตัดต่อมทอนซิลออกทางปาก โดยการดมยาสลบ ผู้ป่วยต้องงดน้ำ งดอาหารก่อนผ่าตัด 6 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการสำลักอาหารลงปอดขณะดมยาสลบ – ผู้ป่วยจะมีแผลที่เยื่อบุลำคอทั้ง 2 ข้าง หลังการผ่าตัดอาจมีความรู้สึกเจ็บคอ หลังการผ่าตัดประมาณ 1 สัปดาห์ อาการเจ็บแผลจะดีขึ้น และประมาณ 2 – 4 สัปดาห์หลังการผ่าตัดแผลจะหายเป็นปกติ – หลังการผ่าตัดหากไม่มีเลือดออกและรับประทานอาหารได้ดี แพทย์จะนำสายน้ำเกลือออกและอนุญาตให้กลับบ้านได้ โดยแพทย์จะนัดตรวจแผลและฟังผลชิ้นเนื้อประมาณ 1 สัปดาห์หลังการผ่าตัด
- ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บคอและมีแผลด้านในคอทั้ง 2 ข้าง แผลอาจบวมและมีเลือดจางๆ ได้ ในช่วงแรกอาจจะกลืนอาหารลำบาก ควรรับประทานอาหารเหลวและเย็น เช่น นมเย็น โยเกิร์ต ไอศครีม หากไม่มีอาการปวดแผลบริเวณที่ผ่าตัดแล้ว สามารถเปลี่ยนมารับประทานอาหารอ่อนๆ ที่ไม่มีกากได้ เช่น โจ๊กปั่น ข้าวต้มนิ่มๆ
- ผู้ป่วยบางรายอาจมีผนังช่องคอบวมทำให้การหายใจอึดอัด ควรนอนยกศีรษะสูง หากมีอาการบวมมากขึ้นและหายใจไม่สะดวกให้รีบมาพบแพทย์
- หลังการผ่าตัด 1 สัปดาห์ ควรหลีกเลี่ยงการไอแรงๆ การล้วงคอให้เสมหะออก การแปรงฟันลึกๆ ในช่องปาก การออกแรงมากและการยกของหนัก เพราะอาจทำให้มีเลือดออกได้
- หากมีเลือดออกให้ประคบเย็นที่บริเวณลำคอ นอนพักโดยยกศีรษะให้สูงร่วมกับอมน้ำเย็นประมาณ 10 นาที แล้วสลับด้วยการประคบเย็น หากเลือดออกไม่หยุดควรรีบไปพบแพทย์ทันที
- หลังการผ่าตัด 1 สัปดาห์ ไม่ควรรับประทานอาหารรสจัด หลีกเลี่ยงอาหารที่มีก้อนเนื้อชิ้นใหญ่หรืออาหารแข็ง เพราะอาจทำให้ไปครูดแผลผ่าตัด เกิดการติดเชื้อและมีเลือดออกตามมาได้
- เลือดออกจากแผลผ่าตัด ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีก้อนเนื้อชิ้นใหญ่ อาหารที่มีรสจัดหรืออาหารแข็ง
- หายใจลำบาก เนื่องจากผนังลำคอบวมมาก ผู้ป่วยอาจต้องใส่ท่อช่วยหายใจหลังผ่าตัดไว้ระยะหนึ่ง
- รับประทานอาหารได้น้อย หลังผ่าตัดผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บคอ กลืนอาหารหรือกลืนน้ำลายลำบาก ทำให้น้ำหนักลดหรือมีอาการขาดน้ำได้ อาจมีน้ำลายปนเลือดออกมาบ้างเล็กน้อย